เมนู

สมฺผสฺสชาเวทนา ฯ ล ฯ มโนสมฺผสฺสชาเวทนา นี้ เป็นชื่อของเวทนา
ที่เป็นกุศล อกุศล และอัพยากตะ ที่เป็นไปในจักขุทวารเป็นต้น เพราะ
มาในวิภังค์อย่างนี้ว่า จักขุสัมผัสสขาเวทนา เป็นกุศลก็มี เป็นอกุศล
ก็มี เป็นอัพยากตะก็มี เป็นชื่อโดยวัตถุเสมือนมารดา เหมือนเป็นชื่อฝ่าย
มารดา ที่มาในประโยคอย่างนี้ มีอาทิว่า บุตรของนางพราหมณี ชื่อว่า
สารี, บุตรของพราหมณี ชื่อว่า มันตานี. ก็ในที่นี้ มีอรรถแห่งคำดังต่อ
ไปนี้ เวทนาที่เกิดจากเหตุคือจักขุสัมผัส ชื่อว่าจักขุสัมผัสสชาเวทนา. ในบท
ทั้งปวงก็นัยนี้เหมือนกัน ในข้อนี้มีกถารวบรวมเวทนาทั้งปวง เป็นอันดับ
แรก แต่ว่าด้วยอำนาจวิบาก พึงทราบเวทนาด้วยอำนาจสัมปยุตกับจิต
เหล่านี้คือ ในจักขุทวาร จักขุวิญญาณ 2 มโนธาตุ 2 มโนวิญญาณ-
ธาตุ 3. ในโสตทวารเป็นต้นก็นัยนี้. และในมโนทวารประกอบกันมโน-
วิญญาณธาตุ.
ใน

ผัสสนิเทศ

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า จกฺขุสมฺผสฺโส ได้แก่สัมผัสในจักษุ. ในบททั้งปวงก็นัยนี้.
ก็ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ว่า จกฺขุสมฺผสฺโส ฯ ล ฯ กายสมฺผสฺโส เป็น
อันท่านกล่าวผัสสะ 10 ซึ่งมีวัตถุ 5 เป็นกุศลวิบาก และอกุศลวิบาก.
ด้วยบทว่า นโนสนฺผสฺโส นี้ ท่านกล่าวผัสสะที่สัมปยุตด้วยวิบากจิตที่
เป็นโลกิยะ 22 ที่เหลือ.
ใน

สฬายตนนิเทศ

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
ในบทว่า จกฺขฺวายตนํ เป็นต้น คำที่จำต้องกล่าว ท่านกล่าวไว้
แล้วในขันธนิเทศ และอายตนนิเทศ ในวิสุทธิมรรคนั่นแล.
ในนามรูปนิเทศ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-

นามมีอันน้อมไปเป็นลักษณะ รูปมีการแตกสลายเป็นลักษณะ.
ก็ในการจำแนกนามรูปนั้น บทว่า เวทนา ได้แก่เวทนาขันธ์. บทว่า
สัญญา ได้แก่สัญญาขันธ์. บทว่า เจตนา ผัสสะ มนสิการ พึงทราบ
ว่า เป็นสังขารขันธ์. ก็ธรรมที่สงเคราะห์ด้วยสังขารขันธ์ แม้ด้วยเหล่าอื่น
มีอยู่ก็จริง ถึงอย่างนั้น ธรรม 3 ประการนี้ มีอยู่ในจิตที่มีกำลังเพลากว่า
ธรรมทั้งปวง เพราะฉะนั้น ในที่นี้ท่านแสดงสังขารขันธ์ด้วยอำนาจธรรม
เหล่านั้นนั่นเอง. บทว่า จตฺตาโร ในบทว่า จตฺตาโร จ มหาภูตา นี้
เป็นการกำหนดจำนวน. บทว่า มหาภูตา นี้ เป็นชื่อของปฐวีธาตุ
อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ. ก็นัยวินิจฉัยอย่างหนึ่ง ในข้อที่เป็น
เหตุให้ท่านกล่าวว่า ตานิ มหาภูตานิ ทั้งหมดท่านกล่าวไว้แล้วในรูป-
ขันธนิเทศ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค. ก็บทว่า จตุนฺนํ ในคำว่า จตุนฺนญฺจ
มหาภูตานํ อุปาทาย
นี้เป็นฉัฏฐีวิภัตติ ลงในอรรถแห่งทุติยาวิภัตติ
ท่านอธิบายว่า ซึ่งมหาภูตรูป 4. บทว่า อุปาทาย แปลว่า ยึดมั่น
อธิบายว่า ถือมั่น อาจารย์บางพวกกล่าวว่า อาศัยก็มี. ก็ปาฐะที่เหลือ
ว่า ปวตฺตมานํ นี้ พึงนำมาเชื่อมเข้าในที่นี้. อีกอย่างหนึ่ง คำนี้เป็น
ฉัฏฐีวิภัตติ ลงในอรรถว่าประชุม พึงทราบเนื้อความดังนี้ว่า รูปอาศัย
การประชุมแห่งมหาภูตรูป 4 เป็นไป. เมื่อว่าโดยประการทั้งปวง รูปอาศัย
ภูตรูป 4 มีปฐวีเป็นต้น และรูป 23 ที่อาศัยมหาภูตรูป 4 เป็นไป
ที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีในอภิธรรม โดยแยกเป็นจักขายตนะเป็นต้น ทั้งหมด
นั้นพึงทราบว่า รูป.
ใน

วิญญาณนิเทศ

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า จกฺขุวิญฺญาณํ ความว่า ที่ชื่อว่าจักขุวิญญาณ เพราะวิญญาณ